Main Menu

Recent posts

#21

BMW C 400 GT เป็นรถเเนวสกูตเตอร์ขนาดใหญ่ของบีเอ็มดับเบิลยูที่ให้ผู้ที่ได้สัมผัสได้สนุกกับจังหวะใหม่ของชีวิตในเมือง ด้วยสมรรถนะเเละรูปลักษณ์ที่จะสร้างความคล่องตัวในการเดินทางเเละมีความปลอดภัยสูง

BMW C 400 GT ได้รับการออกเเบบโครงสร้างตัวรถมาอย่างดี ด้วยการมีความยาว 2,210 มิลลิเมตร ความสูง 1,437 มิลลิเมตร ความกว้าง 835 มิลลิเมตร ส่วนความสูงเบาะอยู่ที่ 775 มิลลิเมตร ระยะหว่างขาอยู่ที่ 1,762 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 12.8 ลิตร ปริมาณน้ำมันสำรองประมาณ 3 ลิตร น้ำหนักรวมบรรทุกสูงสุดอยู่ที่ 415 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรวมบรรทุกอยู่ที่ 201 กิโลกรัม

BMW C 400 GT มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบสี่จังหวะกระบอกสูบเดียวระบายความร้อนด้วยน้ำที่มีสี่วาล์วต่อสูบ เพลาลูกเบี้ยวเหนือศีรษะพร้อมกระเดื่องวาล์วและการหล่อลื่นแบบ Wet Sump ที่มีรู x ช่วงชัก อยู่ที่ 80 มิลลิเมตร X 69.6 มิลลิเมตร ความจุเครื่องยนต์ขนาด 350 ซีซี ให้กำลัง 34 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 35 นิวตันเมตร ที่ 5,750 รอบต่อนาที ส่วนอัตรากำลังอัดอยู่ที่ 11.5:1 มีการเตรียมเชื้อเพลิงเป็นเเบบ การฉีดเชื้อเพลิงเข้าท่อไอดีแบบอิเล็กทรอนิกส์/ชุดควบคุมเครื่องยนต์แบบดิจิทัล: BMS-ME พร้อมกับระบบ E-Gas ส่วนระบบไอเสียเป็นเเบบ Closed-loop 3-way catalytic converter, emission standard EU-5 สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 139 กิโลเมตร/ชั่วโมง เเละมีอัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 3.5 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามมาตรฐาน WMTCอยู่ที่เรท 81 กรัม/กิโลเมตร โดยประเภทน้ำมันที่ใช้จะเป็นเเบบ น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว (95 RON / 90 AKI), (เอทานอลสูงสุด 15%, E15); การควบคุมตามประเทศของ SA 639 (91 RON, เอทานอลสูงสุด 15%, E15) ส่วนไดชาร์จเป็นแบบ เครื่องกำเนิดแม่เหล็กถาวร 316 W เเละแบตเตอรี่เป็นเเบบ 12 โวลต์ / 9 แอมป์ต่อชั่วโมง ไม่ต้องบำรุงรักษา ระบบคลัทช์เป็นเเบบ Centrifugal dry clutch มีเกียร์เเบบ Stepless CVT gearbox พร้อมระบบขับเคลื่อนเเบบ Two step spur gearing

เฟรมของ BMW C 400 GT ได้รับการออกเเบบมาใหม่เเละใช้วัสดุที่เเข็งเเกร่งอย่างยิ่งในเเบบ Steel tube construction with aluminum die cast unit โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ Telescopic front fork Ø 35 มิลลิเมตร พร้อม ส่วนระบบกันสะเทือนล้อหลังเป็นเเบบ Double Aluminum swingarm, Double spring struts, adjustable preload โดยที่ระยะระหว่างล้อหน้าและล้อหลังอยู่ที่ 110 มิลลิเมตร / 112 มิลลิเมตร ระยะฐานล้ออยู่ที่ 1,565 มิลลิเมตร มุมแคสเตอร์อยู่ที่ 81  มิลลิเมตร มุมแฮนด์รถอยู่ที่ 63.6 องศา โดยล้อเป็นเเบบ ล้ออะลูมิเนียมหล่อ โดยขนาดล้อหน้าอยู่ที่ 3.50" x 15" ขนาดล้อหลังอยู่ที่ 4.25" x 14" โดยที่ขนาดยางล้อหน้าอยู่ที่ 120/70 R 15 ส่วนขนาดยางล้อหลังอยู่ที่ 150/70 R 14 ระบบเบรคล้อหน้าเป็นเเบบดิสก์เบรกคู่, เส้นผ่านศูนย์กลาง 265 มิลลิเมตร, คาลิเปอร์แบบตายตัว 4 ลูกสูบ ส่วนระบบเบรคล้อหลังเป็นเเบบจานเบรกเดี่ยว, เส้นผ่านศูนย์กลาง 265 มิลลิเมตร, คาลิเปอร์เบรกลอยตัว 1 ลูกสูบพร้อมระบบ  ABS  เป็นเเบบ ระบบเบรก ABS ของ BMW Motorrad โดยไฟหน้าเป็นแบบ Full LED พร้อม Daytime Riding light sohkจอแสดงผล TFT ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว มี E-Gas – Ride by Wire ใหม่ ที่ทำให้การตอบสนองของคันเร่งเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์และกลมกลืนขึ้น รวมถึง Keyless Ride ที่ช่วยให้การขับขี่ของคุณสะดวกสบายมากขึ้นโดยไม่ต้องใช้กุญแจรถ เเละมีช่องเก็บของ Flexcase พร้อมแสงไฟที่สว่างยิ่งขึ้น ตัวบอดี้มี 3 เฉดสีด้วยกันทั้ง สีดำ Black Strorm Matallic, สีขาว Alpine White 3 uni เเละสี Callisto grey metallic

สนราคาขายของ BMW C 400 GT นั้นเคาะราคาเริ่มต้นออกมาที่ 435,000 บาท
#22

Honda New CB1300 SUPER FOUR เป็นบิ๊กไบค์เเนวสปอร์ตอีกรุ่นของฮอนด้าที่น่าสนใจเเละเร้าใจด้วยรูปลักษณ์เเละสมรรถนะที่ร้อนเเรงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานในการขับขี่ทุกเส้นทาง

ด้าน Honda New CB1300 SUPER FOUR มาพร้อมกับมิติตัวรถที่มีความกว้าง 795 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,200 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,125 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,520 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 780 มิลลิเมตร ทางด้านของมุมคาสเตอร์/ระยะเทรล อยู่ที่ 25°00'/99 มิลลิเมตร ทำให้มีน้ำหนักสุทธิอยู่ที่ 267 กิโลกรัม นับว่าเป็นบิ๊กไบค์อีกรุ่นที่มีขนาดใหญ่

ทางด้านสมรรถนะของ Honda New CB1300 SUPER FOUR นั้นมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 1,284 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์เเบบ SC54E ที่มี LiquidcooledDOHC Inline 4 cylinder ส่วนทางด้านของความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 78.0 x 67.2 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 9.6 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ Wet, multiplate clutch โดยมีระบบส่งกำลัง 6-speed ที่ทำงานร่วมกับระบบเฟืองท้ายเเบบ Chain โดยที่มี อัตราทดรอบ/เส้นรอบวงล้อ อยู่ที่ 1.652/2.222 ส่วนระบบเกียร์เป็นเเบบ 1st gear : 3.083 2nd gear : 1.941 3rd gear : 1.478 4th gear : 1.240 5th gear : 1.074 6th gear : 0.967 โดยระบบจุดระเบิดเป็น Fully Digital Transistorised  เเละมีระบบการติดเครื่องยนต์เป็นเเบบ Electric จากสเปกถือว่าเเรงเลยทีเดียว

ในส่วนเฟรมของ Honda New CB1300 SUPER FOUR ได้รับการออกเเบบด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเเละมีความเเข็งเเกร่งจากวัสดุที่นำมาใช้ พร้อมกับระบบกันสะเทือนที่ทำงานได้เป็นอย่างดี โดยมีระบบห้ามล้อหน้าเป็นเเบบ Hydrolic double disc ส่วนระบบห้ามล้อหลังจะเป็นเเบบ Hydrolic disc โดยที่มียางหน้าเป็นเเบบ 120/70ZR17M/C 58W  ส่วนทางด้านยางหลังจะเป็นเเบบ 180/55ZR17M/C 73W โดยมีหน้าปัดเเสดงข้อมูลการขับขี่เป็นเเบบดิจิตอลอยู่ตรงกลางระหว่ามาตรวัดเเบบวินเทจทรงกลม 2 อัน โคมไฟหน้าเป็นเเบบดวงเดียวกลมขนาดใหญ่สวยงามอย่างยิ่ง ส่วนท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ เเบบ 4 รวม 1 พร้อมกับระบบความเร็วอัตโนมัติ สำหรับการเดินทางไกลเรียกว่าเป็นระบบที่ล้ำสมัยอีกจุดที่บรรจุลงในรุ่นนี้ โดยมีโหมดในการขับขี่ถึง 3 โหมดมาให้เลือกทั้ง โหมดการขับขี่ทั่วไป โหมดการขับขี่เเบบสปอร์ต เเละโหมดการขับขี่ตอนฝนตก ตัวบอดีมีสีให้เลือกสีเดียวคือสีทูโทน PEARL SUNBEAM WHITE (W-R) สวยงามน่าขับขี่

ส่วนทางด้านราคาของ Honda New CB1300 SUPER FOUR  นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 575,000 บาท เป็นราคาที่เร้าใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถเเนวนี้ รับรองว่าคุ้มค่ากับสเปกที่จะได้ครอบครองอย่างแน่นอน
#23


Indian Scout คือรถจักรยานยนต์อีกรุ่นที่เป็นระดับตำนานของ Indian Motorcycle เลยทีเดียว โดยถ่ายทอด ดีเอ็นเอมานานกว่าหนึ่งศตวรรษ ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งในการขับขี่สไตล์อเมริกันอย่างเเท้จริง เเละมีการผสมผสานอย่างลงตัวของโลกในอดีตเเละปัจจุบัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจ

โครงสร้างมิติตัวรถของ Indian Scout ก็น่าสนใจไม่น้อย โดยมันมีความยาว 2,324 มิลลิเมตร ความกว้าง 916 มิลลิเมตร เเละมีความสูง 1,068 มิลลิเมตร Lean Angle อยู่ที่ 31 องศา ส่วน Rake อยู่ที่ 29 องศา เเละเทรลอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อที่ 1,575 มิลลิเมตร ความสูงเบาะที่นั่งอยู่ที่ 649 มิลลิเมตร ระยะความสูงจากพื้นอยู่ที่ 146 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 12.5 ลิตร น้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 247 กิโลกรัม น้ำหนักรถเมื่อรวมน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถังอยู่ที่ 256 กิโลกรัม เเละน้ำหนักรถรวมบรรทุกอยู่ที่ 449 กิโลกรัม เป็นรถอีกรุ่นที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัวและสมส่วนอย่างยิ่ง

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Indian Scout ก็นับว่าร้อนเเรงไม่ใช่เล่นด้วยการพกพาเครื่องยนต์เเบบ Liquid Cooled V-Twin ขนาดความจุถึง 1,133 ซีซี มีกระบอกสูบขนาด 99 มิลลิเมตร X 73.6 มิลลิเมตร อัตรากำลังอัดอยู่ที่ 10.7:1 มีระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์เป็นเเบบ Closed loop fuel injection / 60 mm bore ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที เเละมีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 97 นิวตันเมตร พร้อมกับ Gear Drive Wet Clutch ที่ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Wet, Multi-Plate พร้อมกับเกียร์เเบบ 6 สปีด

Indian Scout มาพร้อมกับเฟรมที่ได้รับการออกเเบบมาใหม่เป็นอย่างดี ทั้งความเเข็งเเกร่งเเละวัสดุในการผลิต โดยมีระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นเเบบ Telescopic Fork/120 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นเเบบ Dual Shocks/76 มิลลิเมตร มีระบบเบรกล้อหน้าเป็นเเบบ Single / 298 mm Rotor / 2 Piston Caliper ส่วนเบรกล้อหลังเป็นเเบบ Single /298 mm Rotor / 1 Piston Caliper ยางหน้าเป็นเเบบ Pirelli Night Dragon 130/90B16 67H ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli Night Dragon 150/80B16 77H โดยที่ล้อจะเป็นเเบบ Contrast cut 16" x 3.5" / 16" x 3.5" มีท่อไอเสียเป็นเเบบ Split dual exhaust with crossover ตัวถังมีความหรูหราด้วยการใช้สีโครมในส่วนใหญ่ของตัวรถและเครื่องยนต์ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เบาะหนังสำหรับ 2 ที่นั่งที่มาพร้อมที่พักเท้าสำหรับผู้โดยสาร โคมไฟหน้ากลมใหญ่ 1 ดวง เเละระบบหน้าจอเเสดงผลเป็นเเบบอนาล็อคเเละดิจิตอล สวยงามคลาสสิค ตัวบอดี้มี 3 เฉดสีด้วยกันทั้งสีดำ Black Metallic, สีแดง Maroon Metallic เเละสีเงิน Silver Quartz Metallic/Black ถือว่าสวยงามทุกสีเลยก็ว่าได้


โดยราคาขายเริ่มต้นของ Indian Scout จะอยู่ที่เรท 879,000 บาท
#24


BMW R 18 Transcontinental นั้นถือว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่เเละเหมาะกับการเดินทางไกลเป็นอย่างยิ่ง ทั้งมีความพิเศษเเละหรูหรา พร้อมทั้งสะดวกสบายและทรงพลังอย่างยิ่ง

โครงสร้างตัวรถของ BMW R 18 Transcontinental ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย ด้วยความยาว 2,640 มิลลิเมตร ความสูงเหนือกระจก 1,500 มิลลิเมตร ความกว้างเหนือก้านมือจับ 970 มิลลิเมตร ส่วนระดับความสูงของที่นั่งเมื่อมีน้ำหนักด้านข้างตัวรถอยู่ที่ 740 มิลลิเมตร ค่าความกว้างของช่วงขาเมื่อมีน้ำหนักด้านข้างตัวรถอยู่ที่ 1,710 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 24 ลิตร ปริมาณน้ำมันสำรองประมาณ 4 ลิตร น้ำหนักรวมบรรทุกสูงสุดอยู่ที่ 630 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรวมบรรทุกอยู่ที่ 203 กิโลกรัม ถือว่าเป็นรถขนาดใหญ่อีกรุ่นของบีเอ็มดับเบิลยู

ทางด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ของ BMW R 18 Transcontinental ถือว่าร้อนเเรงเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการพกพาเครื่องยนต์เเบบบ็อกเซอร์สี่จังหวะสองลูกสูบแบบระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมันที่มาพร้อมกับเพลาลูกเบี้ยวแบบขับเคลื่อนด้วยโซ่สองเส้นตั้งอยู่เหนือเพลาข้อเหวี่ยง ที่มีรู x ช่วงชัก อยู่ที่ 107.1 มิลลิเมตร X 100 มิลลิเมตร ความจุเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ถึง 1,802 ซีซี ให้กำลัง 67 แรงม้า ที่ 4,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที ส่วนอัตรากำลังอัดอยู่ที่ 9.6:1 มีการเตรียมเชื้อเพลิงเป็นเเบบ การฉีดท่อร่วมไอดีอิเล็กทรอนิกส์/ดิจิตอล เเละการจัดการเครื่องยนต์: BMS-O พร้อมชุดควบคุมการจ่ายก๊าซปีกผีเสื้อแรงเคลื่อนไฟฟ้าส่วนการควบคุมการปล่อยไอเสียเป็นเเบบ เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา 3 ทางที่มีระบบควบคุม สามารถทำความเร็วสูงสุดได้เกิน 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง เเละมีอัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 5.8 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร โดยประเภทน้ำมันที่ใช้จะเป็นเเบบ น้ำมันพิเศษไร้สารตะกั่ว (เอธานอลไม่เกิน 15 %, E15) ROZ 95 90 AKI ส่วนไดชาร์จเป็นแบบ ไดชาร์จแม่เหล็กถาวร 660 วัตต์ เเละแบตเตอรี่เป็นเเบบ 12 โวลต์ / 26 แอมแปร์-ชั่วโมง ไม่ต้องบำรุงรักษา ระบบคลัทช์เป็นคลัตช์แบบแห้งแผ่นเดียว มีเกียร์เเบบ ชุดเกียร์ 6 สปีดที่เฟืองขับกัน ในปลอกกระปุกเกียร์ที่แยกต่างหาก พร้อมระบบขับเคลื่อนเเบบเพลาขับ

BMW R 18 Transcontinental มีเฟรมเเบบ โครงเหล็กแบบเปลคู่พร้อมส่วนรองรับที่ติดตั้งมา โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ โช้คอัพแบบหัวกลับ ส่วนระบบกันสะเทือนล้อหลังเป็นเเบบ แขนเหล็กสวิงแบบสองแขนพร้อมตัวกันกระแทก โดยที่ระยะระหว่างล้อหน้าและล้อหลังอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร / 120 มิลลิเมตร ระยะฐานล้ออยู่ที่ 1,695 มิลลิเมตร มุมแคสเตอร์อยู่ที่ 183.5 มิลลิเมตร มุมแฮนด์รถอยู่ที่ 62.7 องศา โดยล้อเป็นเเบบล้ออลูมิเนียมหล่อที่ล้อหน้า โดยขนาดล้อหน้าอยู่ที่ 3.5" x 19" ขนาดล้อหลังอยู่ที่ 5.0" x 16" โดยที่ขนาดยางล้อหน้าอยู่ที่ 120/70 R19 ส่วนขนาดยางล้อหลังอยู่ที่ 180/65 B16 ระบบเบรคล้อหน้าเป็นเเบบจานเบรกคู่, เส้นผ่านศูนย์กลาง 300 มิลลิเมตร, คาลิเปอร์แบบตายตัว 4 สูบ ส่วนระบบเบรคล้อหลังเป็นเเบบจานเบรกเดี่ยว, เส้นผ่านศูนย์กลาง 300 มิลลิเมตร, คาลิเปอร์แบบตายตัว 4 สูบพร้อมระบบ  ABS  เป็นเเบบ ABS ในตัวของ BMW Motorrad โดยแผงปิดด้านหน้าที่ยึดติดกับแฮนด์พร้อมกระจกบังลมหน้าทรงสูงช่วยป้องกันสภาพอากาศที่รุนแรงได้ดีที่สุด ไฟหน้าเสริมแบบ LED ที่มีสไตล์ทั้งสองดวงเข้ากันได้ดีกับแนวความคิดของ R 18 Transcontinental และมอบรูปลักษณ์ที่มี

เอกลักษณ์ ส่วนค็อกพิต เป็นมาตรวัดทรงกลมอะนาล็อกสุดคลาสสิกสี่ชุดผสมผสานกับจอภาพ TFT ขนาด 10.25 นิ้วที่ทันสมัย: ตั้งแต่เกจวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบนำทาง ไปจนถึงเพลย์ลิสต์ของคุณ คุณจะมองเห็นข้อมูลทั้งหมดอย่างรวดเร็วตลอดเวลา เบาะที่นั่งคนขับขี่สะดวกสบายเเละสวยงามส่วนที่นั่งซ้อนท้ายของเบาะนั่งที่สะดวกสบายเป็นพิเศษมีระบบทำความร้อนเบาะนั่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและรองรับการนั่งที่ดีที่สุด พนักพิงจะรวมเข้ากับกล่องท้ายจักรยานยนต์ที่อยู่ติดกันราวกับว่าเป็นชิ้นเดียวกัน ตัวบอดี้สีดำ Black Storm metallic พร้อมซับในคู่สีขาว

สนราคาของ BMW R 18 Transcontinental นั้นเคาะราคาเริ่มต้นออกมาที่ 1,640,000 บาท